ยุคสมัยของการเร่งรีบ
การแข่งขันทำงานในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ บวกกับการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
ทำให้หลายคนเกิดความเครียดลึกๆ โดยไม่รู้ตัว นำมาซึ่งอาการป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ
เกิดอาการไม่สดชื่น ปวดท้อง ท้องอืด ขับถ่ายไม่ปกติ
เมื่อไปพบแพทย์ก็ไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากสาเหตุอะไร
แต่สำหรับการแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยแบบองค์รวม
(Anti-Aging Medicine) เรียกอาการเหล่านี้ว่า "ภาวะร่างกายสะสมพิษ" เมื่อร่างกายมีสารพิษสะสมเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะของเสียที่ตกค้างอยู่ในตับและลำไส้
นำไปสู่การอักเสบและการรั่วซึมของผนังเซลล์ทำให้สารพิษเข้าสู่กระแสเลือดทำให้เกิดความผิดปกติและร่างกายเสียความสมดุล
ร.ต.ต.นพ.อัญวุฒิ
ช่วยวงษ์ญาติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของบาลานซ์ บาย ไฮโดรเฮลท์
คลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัยแบบองค์รวม กล่าวว่า คนเราจะสุขภาพดีหรือไม่ดี ดูได้จากลำไส้ สังเกตได้จากว่า ท้องอืดไหม ถ่ายสะดวกไหม
เป็นตัวชี้วัดคุณภาพของระบบย่อยอาหารทั้งหมด ถ้าลำไส้ดี สุขภาพด็จะดีตามไปด้วย
"ลำไส้เล็กมีความสำคัญมากที่สุด
แต่คนส่วนใหญ่กลับละเลยไม่ใส่ใจในการดูแล ลำไส้เล็กมีหน้าที่ดูดซึมสารอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกายโดยตรง
หากรับประทานอาหารที่มีสารปนเปื้อนหรือมีสารพิษตกค้าง ทำให้ลำไส้เกิดการอักเสบ
สารพิษซึมผ่านผนังลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดโรคต่างๆ มากมาย อาทิ ภูมิแพ้
สิวที่รักษาไม่หาย ข้ออักเสบรูมาตอยด์ และไทรอยด์อักเสบ"
วิธีการดูแลลำไส้เล็กให้มีสุขภาพดี
ร.ต.ต.นพ.อัญวุฒิแนะนำว่า ควรรับประทานอาหารที่ไม่มีสารพิษปนเปื้อน ถูกสุขลักษณะ
ไม่รับประทานอาหารซ้ำซาก และรับประทานแบคทีเรียชนิดดีที่มีประโยชน์ (โปรไบโอติกส์)
ซึ่งอยู่ในโยเกิร์ตและนมเปรี้ยว เพื่อเสริมการช่วยย่อยให้มีประสิทธิภาพให้ดีขึ้น
นอกจากนี้การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวันเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก
เพราะหากดื่มน้ำน้อยจะส่งผลทำให้การดูดซึมน้ำในลำไส้ใหญ่มีปัญหาเกิดภาวะอุจจาระแข็งตัว
ขับถ่ายไม่สะดวก และเกิดอาการท้องผูกได้
"สารพิษที่ตกค้างในร่างกายเปรียบเสมือนภัยเงียบที่คอยบ่อนทำลายสุขภาพ
ทุกคนอยากแก่ช้าป่วยยาก การป้องกันโรคก่อนเกิดโรคสามารถทำได้ง่ายๆ
โดยเริ่มต้นที่ใส่ใจดูแลตัวเอง ทั้งการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกาย
พร้อมหมั่นล้างสารพิษและอนุมูลอิสระออกจากร่างกาย
เพียงเท่านี้ท่านก็จะมีสุขภาพดีและห่างไกลโรคไปอีกนาน" ร.ต.ต.นพ.อัญวุฒิกล่าวทิ้งท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น