ปัจจุบันคนไทยมีแนวโน้มสูงขึ้นที่จะเป็นโรคหมอนรองกระดูก
โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศและคนที่ต้องนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกวัน วันละนานๆ
จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท
เนื่องจากระหว่างใช้คอมพิวเตอร์จะมีการเกร็งและใช้งานบริเวณส่วนหลัง
อาจจะมีการใช้อย่างไม่ถูกต้องและเคลื่อนไหวไม่เหมาะสม
เมื่อทับถมเป็นเวลานานจะส่งผลให้เกิดกระดูกเสื่อม ทำให้เกิดโรคหมอนรองกระดูก
นพ.ธีรศักดิ์
พื้นงาม แพทย์หัวหน้าศูนย์สมองและระบบประสาท พร้อมทีมแพทย์ Mini Spine โรงพยาบาลพญาไท
1 ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาทไว้ว่า
โรคนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
โรคหมอนรองกระดูกส่วนเอวกดทับเส้นประสาท จะมีอาการปวดร้าวจากเอวลงไปที่ขา
ขาชาและอ่อนแรงขาข้างใดข้างหนึ่ง และหมอนรองกระดูกส่วนคอกดทับเส้นประสาท
จะปวดต้นคอร้าวไปที่สะบักข้างใดข้างหนึ่ง หรืออาจปวดถึงแขนหรือมือ
มืออ่อนแรงจับสิ่งของไม่ถนัด มือและแขนมีอาการชา
"หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ และรีบรักษาก่อนอาการลุกลามรุนแรง"
นพ.ธีรศักดิ์ย้ำ
อย่างไรก็ตาม นพ.ธีรศักดิ์ระบุว่า
โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท เมื่อรักษาแล้วก็มีโอกาสเป็นซ้ำได้อีก
หากไม่ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรื่องปวดหลัง คือ
"การป้องกันไม่ให้เกิด"
"พยายามจัดท่าทางการทำงานหรือกิจวัตรประจำวันให้ถูกต้อง
ให้แนวกระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรงเสมอ
และหลีกเลี่ยงการทำอะไรที่ใช้กล้ามเนื้อหลังมากๆ
รวมถึงหมั่นบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้อหลังให้แข็งแรงไว้เสมอ
เพราะเป็นกล้ามเนื้อที่คอยตรึงแนวกระดูกสันหลังไม่ให้เคลื่อนไหวมากเกินไป"
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทิ้งท้าย ป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ
ก่อนสายเกินแก้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น